คนที่เก่งจริง เขาจะกล้าที่จะเดินไปข้างหน้าเพียงลำพัง เรียนรู้ที่จะเดินเพียงลำพังนี่ สิคือวิถีของคนเเกร่ง
1.หนทางของชี วิตนั้นย าวไกล จงเรียนรู้ที่จะเดินลำพังบ้าง
เผื่อวันใด ที่คนอื่นไม่ได้สนใ จคุ ณเหมือนเดิม ก็ไม่ต้องเ สี ยใ จ เพราะทุกคนต่างมีเส้นทางของชี วิต ที่ต้องเดินเหมือนกัน
ไม่มีใครเดินเคียงคู่คุ ณไป จนถึงปลายทาง อ ย่ าให้ใครคนใดคนหนึ่ง หรือเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่งกลายเป็นทั้งหมดในชี วิตคุ ณ
2.ความซาบซึ้งทดเเทนความผูกพันไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นใครเพื่อนหรือคนเเปลกหน้า คุ ณต้องเรียนรู้ ที่จะยิ้มเเม้ในใ จจะร่ำไห้ สะอื้นสักเพียงใด เพราะมนุษย์ทุกคน
ต่างมีความเห็นเเก่ตัว ฉะนั้นอ ย่ าไปคาดหวัง ว่าจะมีใครดีต่อคุ ณโดยปราศจากเงื่อนไข หากใครคนหนึ่ง ไม่มีค่าเพียงพอให้คุ ณถนอมก็ต้องฝึกปล่อยฝึกวางฝึกทิ้ง
3.กำเเน่นเท่าใดก็สูญเ สี ยมากเท่านั้น
เหมือนกับการกำทรายนั่นเเหล ะยิ่งคุ ณกำเเน่น ทรายก็ร่วงออกจากมือ มากเท่านั้น ที่ควรถนอมจงรู้ถนอม เพราะเมื่อใดที่คุ ณสูญเ สี ยไป
สิ่งนั้นคนนั้น อาจเป็นสิ่งที่มีค่า ที่ทำให้คุ ณเ จ็ บป ว ด เเละเ สี ยใ จที่สุดก็เป็นได้ เมื่อใดที่รู้สึกสิ้ นหวัง หากอย ากร้องไห้ ก็ร้องออกมาเถอะ เเต่เมื่อร้อง
จนหนำใ จเเล้วก็ต้องลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้งให้ได้
4.อ ย่ าเลือกคบคนที่รูปร่างหน้าตา
จงเรียนรู้ที่จะชื่นชม คนที่ความสามารถ เเละหากคุ ณคิดว่า ตัวเองสู้คนอื่นเขาไม่ได้ อ ย่ าได้น้อยเนื้อต่ำใ จ เพราะคุ ณก็เป็นคนธรรมดา เหมือนคนอื่นทั่วๆไป
5.พ่อเเม่คือคนที่รักเเละปรารถนาดีต่อคุ ณมากที่สุด
อ ย่ าคิดถึงท่านเฉพาะตอนไม่มีเงิ น อ ย่ าคิดว่าในสายตาพ่อเเม่คุ ณ ยังเป็นเ ด็ กอยู่ตลอดเวลา อันนี้ก็ถูกถูกในมุมของพ่อเเม่ เเต่ไม่สงส า รพ่อเเม่เหรอ ที่มีลูกไม่รู้จักโตสักที
6.ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเพราะทุกสิ่งเปลี่ยนไปทุกเวลานาที
อ ย่ าเอาวิธีการเก่าๆมาเเก้ไขปัญหา คนสองคนรักกัน อาจไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา อ ย่ าเอาเเต่พร่ำเพ้อ อ ย่ าเอาเเต่เรียกร้อง
เพราะสิ่งนี้อาจเป็นชนวนที่ทำให้คนสองคนยิ่งมาก ยิ่งห่างยิ่งมาก ยิ่งกลายเป็นคนเเปลกหน้า